Selling on Tiktok? Learn more about our integration here.
จัดการคำสั่งซื้อและสินค้าคงคลังบนแพลตฟอร์มกลางเพื่อประสบการณ์ที่พิเศษที่สุด

การจัดการคำสั่งซื้อที่รวดเร็ว, ระบบที่พร้อมให้บริการ, และการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าทั้งหมดบนแพลตฟอร์มกลาง
Anchanto เชื่อมต่อระบบที่คุณใช้งานอยู่ได้อย่างง่ายดาย
บทความที่เผยแพร่เร็ว ๆ นี้

Table of Content

    ความท้าทายของธุรกิจค้าปลีกแบบ Omnichannel: คู่มือฉบับสมบูรณ์ + กรณีศึกษา

    ความท้าทายของธุรกิจค้าปลีกแบบ Omnichannel: คู่มือฉบับสมบูรณ์ + กรณีศึกษา

    1. บทนำ

    ปัจจุบันศักยภาพของช่องทางการค้าปลีกเติบโตอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการขายแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ ผู้บริโภคคาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากทั้งสองช่อง

    Eric Hazan, the Senior Managing Partner at McKinsey (Paris) ให้ความเห็นเช่นเดียวกัน ว่า “เรากำลังเข้าสู่โลกของ ‘phygital’ – การผสมผสานระหว่างโลกทางกายภาพ (phygital) และโลกดิจิตอล ทั้งสองสิ่งนี้ไม่ได้แยกจากกันอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์”

    นี่คือสถิติจากผู้บริโภคบางส่วนของรายงาน “อนาคตของธุรกิจขายปลีก” เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังนี้:

    • 54% ของผู้บริโภคกล่าวว่าในปีถัดไปพวกเขามีแนวโน้มที่จะค้นหาสินค้าออนไลน์และทำการซื้อสินค้าที่หน้าร้าน
    • 55% ของผู้บริโภคตั้งใจดูสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์และตรวจสอบความพร้อมใช้งานของสินค้าผ่านร้านที่ใกล้ที่สุด
    • 47% ของผู้บริโภคต้องการตัวเลือกในการซื้อสินค้าออนไลน์และคืนสินค้าที่ร้าน
    • 58% ของผู้บริโภคต้องการตัวเลือกการจัดส่งที่ยืดหยุ่นเช่น BOPIS (ซื้อออนไลน์และรับสินค้าที่ร้าน)

    นี่เป็นเพียงความคาดหวังเล็กน้อยจากลูกค้าที่ผู้ค้าปลีกควรพยายามทำความเข้าใจและปรับตัวตามสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะเมื่อเวลาผ่านไปความคาดหวังของลูกค้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การรับมือและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าเหล่านี้จึงต้องเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

    Vicky Hardiman, Country Head for Indonesia at Anchanto กล่าวว่า, “การค้าปลีกแบบ Omnichannel เป็นแนวโน้มที่ซับซ้อนเนื่องจากมีส่วนประกอบหลายอย่างที่เชื่อมโยงกัน การดำเนินการในการค้าปลีกแบบ Omnichannel และขั้นตอนที่เกี่ยวข้องสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ บางครั้งแม้ว่าอาจอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันก็ตาม ธุรกิจต่าง ๆ อาจมีกระบวนการที่แตกต่างกันตามตลาดหรือความต้องการของลูกค้า”

    มาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาหลักที่พบในการค้าปลีกแบบ Omnichannel และวิธีการแก้ไขบางส่วนกัน

    2. ปัญหาที่พบบ่อยในการค้าปลีกแบบ Omnichannel

    การบริหารธุรกิจในอุตสาหกรรมค้าปลีกในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ดังนั้นการนำเสนอกลยุทธ์แบบ Omnichannel เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรับมือกับทั้งความท้าทายและโอกาสในยุคปัจจุบัน

    หากไม่มีวิธีการที่เหมาะสมในการสร้างสมดุลระหว่างการค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์ คุณอาจพบกับต้นทุนสูงและความไม่สะดวก และยังเผชิญกับความท้าทายต่อไปนี้เช่นกัน:

    omnichannel_retail_challenges

    a. การขาดระบบจัดการคำสั่งซื้อที่สามารถประมวลผลแบบเรียลไทม์

    การจัดการแบบแยกส่วนระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เป็นเรื่องที่ท้าทาย และการทำให้ทั้งสองช่องทางนี้ทำงานร่วมกันยิ่งทำให้เป็นเรื่องยากลำบากมากขึ้น เช่น การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์แล้วมารับที่ร้าน (BOPIS), การทดลองสินค้าที่ร้านและซื้อออนไลน์, การมารับสินค้าในรูปแบบ ‘Carside pick up’  และกรณีอื่น ๆ

    ในกรณีเหล่านี้ คำสั่งที่ได้รับจะต้องถูกสื่อสารไปยังร้านหรือคลังสินค้าที่ใกล้ที่สุด จากนั้นสินค้าจะต้องถูกประมวลผลและบรรจุหีบห่อให้เร็วที่สุดเพื่อให้ลูกค้ามารับสินค้าที่ร้านได้ในไม่กี่ชั่วโมงตามที่คาดหวัง

    การใช้ระบบแบบเก่าหรือกระบวนการดำเนินงานแบบแมนนวลในการจัดการคำสั่งซื้อที่มาจากแหล่งที่มาทั้งหมด ในธุรกิจค้าปลีกที่ต้องส่งมอบทั้งออนไลน์และออฟไลน์อาจทำให้ธุรกิจของคุณเผชิญกับปัญหาอย่างแน่นอน เนื่องจากการดำเนินงานด้วยระบบที่ไม่ได้รับการปรับปรุงหรือการดำเนินงานแบบแมนนวลนี้จะใช้เวลาในการดำเนินงานมากกว่า และอาจทำให้การสื่อสารผิดพลาด

    ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้การขายล่าช้าลง แต่ยังทำให้ประสบกับประสบการณ์ที่ไม่พึงพอใจสำหรับลูกค้าของคุณ

    และที่สิ่งที่แย่กว่าคือ การวิจัยพบว่าเพียง 1 ใน 10 ผู้บริโภคเชื่อว่าธุรกิจสามารถสร้างประสบการณ์แบบ Omnichannel ที่ราบรื่นได้ เพราะไม่มีระบบที่สามารถช่วยประมวลผลข้อมูลคำสั่งซื้อและเตรียมสินค้าเพื่อจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    b. การจัดการสินค้าคงคลังแบบกระจัดกระจาย

    เมื่อมีคำสั่งซื้อออนไลน์เข้ามาและคลังจัดการคำสั่งซื้อที่ใกล้ที่สุดกับลูกค้ามีจำนวนสินค้าคงคลังเหลือน้อย, คุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคลังจัดการคำสั่งซื้ออื่นๆ เพื่อให้การดำเนินการคำสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์ และกระบวนการค้นหาคลังจัดการคำสั่งซื้อถัดไปที่ใกล้ที่สุดอาจจะใช้เวลาค่อนข้างนาน

    นอกจากนี้, ระบบการดำเนินงานแบบเดิมอาจไม่สามารถอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับจำนวนสินค้าคงคลังคงเหลือหรือสินค้าบางรายการที่หมดสต็อกได้. ดังนั้น, แม้ว่าสต็อกสินค้าของร้านค้าคุณบางรายการจะถูกขายหมดแล้ว, คุณยังจำเป็นต้องรับคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องจากลูกค้าที่ทำการสั่งซื้อเข้ามา เนื่องจากไม่สามารถปฏิเสธได้ และคำสั่งซื้อใหม่ทั้งหมดนั้นจะต้องรอนานจนกว่าจะมีการเติมสต็อกเพิ่มเข้ามา

    สถานการณ์เหล่านี้อาจเกิดขึ้นในกรณีการจัดการคำสั่งซื้อออนไลน์, รวมถึงคำสั่งซื้อแบบ BOPIS (Buy Online, Pick Up in Store) หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับปริมาณสินค้าคงคลังที่มีอยู่ในคลังสินค้าของคุณ, อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่งตามข้อกำหนดการบริการ (SLA) และการไม่ได้รับของตามระยะเวลาที่กำหนดอาจสร้างความไม่พึงพอใจแก่ลูกค้าได้

    นอกจากนี้, การจัดการช่องทางการค้าปลีกและคลังสินค้าหลายแห่งผ่านการดำเนินงานแบบแมนนวลหรือระบบแบบเดิมอาจเพิ่มความซับซ้อนในกระบวนการจัดการสินค้าคงคลังได้

    “ นี่เป็นความท้าทายสำคัญที่ผู้ค้าปลีกแบบ Omnichannel ต้องเผชิญการไม่สามารถจัดการกับความถูกต้องของจำนวนสินค้าคงคลังสำหรับการขายสินค้าบนหลายช่องทาง อาจส่งผลให้เกิดปัญหาการขายสินค้ามากกว่าจำนวนสต็อกที่มีอยู่หรือการขายสินค้าที่น้อยเกินไป” กล่าวโดย Vicky.

    c. ราคาและรายละเอียดสินค้าที่ไม่สอดคล้องกัน

    คำอธิบายสินค้าและการละเมิดด้านราคาเป็นปัจจัยสำคัญเมื่อลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าได้ทั้งในช่องทางการขายออนไลน์และออฟไลน์ คุณจะเห็นว่าผู้บริโภคในปัจจุบันมีส่วนร่วมในการช็อปปิ้งแบบ cross-channel คือการศึกษาหรือค้นหาข้อมูลสินค้าในร้านค้าออนไลน์ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าที่ร้านค้าออฟไลน์

    ตัวอย่างเช่น, ลูกค้าที่สนใจซื้อแล็ปท็อป อาจพิจารณาและตรวจสอบสินค้าผ่านช่องทางออฟไลน์เพื่อทราบขนาด, ฟังก์ชัน, และความสามารถของสินค้าก่อนที่จะทำการสั่งซื้อออนไลน์เพื่อความสะดวกในการจัดส่ง อีกทางเลือกหนึ่ง, ผู้ซื้ออาจต้องการตรวจสอบสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และทำการซื้อสินค้าที่ร้านค้าออฟไลน์เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของสินค้าโดยทันที

    การสำรวจแสดงให้เห็นว่าในปัจจุบัน, 51% ของผู้บริโภคทั่วโลกเลือกใช้บริการ click and ship ผ่านโทรศัพท์มือถือขณะที่อยู่ภายในร้านค้า, โดยใช้เว็บไซต์ของร้านค้าปลีกนั้น ๆ การสำรวจยังระบุอีกว่า 6 ใน 10 คนที่ทำการซื้อสินค้าภายในร้านค้าปลีกทำการสั่งซื้อผ่านโทรศัพท์มือถือ, แต่ทำการสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ของผู้ค้าปลีกรายอื่นที่ขายสินค้าชนิดหรือแบบเดียวกัน.

    สิ่งสำคัญที่ควรจดจำเมื่อพิจารณาสถิติเหล่านี้คือหากการกําหนดราคาและข้อมูลสินค้าที่โปรโมทผ่านร้านค้าออนไลน์ของคุณไม่สอดคล้องกัน, ผู้บริโภคอาจไม่ได้รับประสบการณ์ที่ดี ดังนั้น, ควรให้ความสำคัญกับความถูกต้องและความเป็นมืออาชีพในการกําหนดราคาและสร้างเนื้อหาหรือข้อมูลสินค้า

    ด้วยระบบการดำเนินงานแบบเดิมที่ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อตอบโจทย์กลยุทธ์แบบ Omnichannel, การจัดการด้านราคาและรายละเอียดของสินค้าที่สอดคล้องกันในแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์กลายเป็นภาระงานที่ซับซ้อน. การบริหารจัดการราคาและรายละเอียดสินค้าที่สอดคล้องกันในทั้งสองแพลตฟอร์มนั้นมีความท้าทายและส่งผลกระทบอย่างมากต่อการค้าปลีกแบบ Omnichannel

    d. ขาดการมองเห็นหรือเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์

    การขายผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์นั้นทำให้การติดตามยอดขาย, ความคิดเห็นของลูกค้า, และระดับสินค้าคงคลังของคุณเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นหากไม่มีวิธีการหรือระบบที่สามารถรวบรวมข้อมูลได้อย่างแม่นยำและประมวลผลแบบเรียลไทม์ คุณจะพลาดโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสินค้าและความต้องการของลูกค้า

    การไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือขาดการมองเห็นในทันที ทำให้การประเมินระดับประสิทธิภาพของสินค้าหรือแบรนด์ของคุณเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก, การนำเสนอประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า, การจัดการระดับสต็อกสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า, หรือการนำข้อมูลเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจด้านอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องยาก

    ข้อมูลโปรโมชั่นที่ไม่เพียงพอยังทำให้การประเมินประสิทธิภาพของการขายและความคุ้มค่าของต้นทุนเป็นเรื่องที่ท้าทาย สถานการณ์นี้มีผลต่อความสามารถในการขายของคุณและทำให้การเปิดตัวสินค้าใหม่ในตลาดเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากขึ้น

    นอกจากนี้ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลยังทำให้คุณไม่สามารถจัดการคำสั่งซื้อในแต่ละช่องทางการขายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือเพื่อลดเวลาในการจัดส่งและป้องกันปัญหาสินค้าขาดสต็อก คุณยังไม่ทราบว่าคลังสินค้าไหนจะดูแลการจัดส่ง ซึ่งทำให้ยากต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพในการจัดส่ง last-mile delivery.

    3. โซลูชันที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่ผู้ค้า Omnichannel สามารถเชื่อถือได้

    ด้วยข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับความท้าทายในการค้าปลีกแบบ omnichannel การทำความเข้าใจถึงว่าธุรกิจของคุณต้องการอะไรเพื่อลดความกดดันกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดเหล่านี้ คุณจำเป็นต้องสร้างโครงสร้างที่สามารถเชื่อมต่อและรักษาเครือข่ายค้าปลีกของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Sajal Kohl, Senior Partner at McKinsey Chicago กล่าว Omnichannel Insights ระบุว่า, “การลงทุนทรัพยากรจำนวนมาก ทั้งบุคลากรและเงินทุน ควรเปลี่ยนจากการเปิดร้านค้าแบบดั้งเดิมไปสู่การลงทุนด้านเทคโนโลยี.”

    เพื่อเชื่อมช่องว่างที่มีอยู่ในธุรกิจค้าปลีกแบบ omnichannel ในปัจจุบันและรวมศูนย์การดำเนินงาน คุณจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เทคโนโลยี SaaS ที่ใช้ระบบคลาวด์

    หากไม่มีระบบ SaaS เพื่อจัดการการดำเนินงานแบบออฟไลน์และออนไลน์ของคุณ ไซโลต่างๆ ระหว่างฝ่ายขาย การจัดเก็บสินค้า และฝ่ายปฏิบัติงานจะยังคงอยู่

    ดังนั้น สิ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติบางอย่างที่คุณต้องมองหาในโซลูชันทางเทคโนโลยีที่คุณกำลังพิจารณาจะนำมาใช้:

    omnichannel_retail_solutions

    a. การขายแบบรวมศูนย์ผ่านทุกช่องทาง

    หากคุณทำธุรกิจค้าปลีกแบบ omnichannel ที่มีทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ คุณต้องจัดการยอดขายอย่างเหมาะสมและทำให้สินค้าของคุณพร้อมใช้งานและมองเห็นได้ในทุกช่องทางขาย ไม่ว่าจะเป็นการเติมสต็อกหรือการจัดส่งคำสั่งซื้อ

    เรื่องนี้จัดการได้อย่างง่ายดายด้วยการผสมผสานระหว่าง Order Management System (OMS) และ Warehouse Management System (WMS).

    ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (OMS) เปรียบเสมือนศูนย์กลางควบคุมการขายออนไลน์ของคุณ ช่วยให้คุณติดตามยอดขาย ตรวจสอบสถานะคำสั่งซื้อ และจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วทันใจ โดยระบบจะรวบรวมคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางขายออนไลน์ของคุณเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือมาร์เก็ตเพลสต่างๆ

    ระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) คือโซลูชันที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจที่มีคลังสินค้าเป็นของตัวเอง ระบบนี้ช่วยรวมสินค้าของคุณเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้คุณควบคุมได้ดีขึ้น คุณสามารถเลือกใช้ระบบอัตโนมัติสำหรับกระบวนการจัดส่งสินค้าหลักๆ และซิงค์การจัดการสินค้าคงคลังกับการประมวลผลคำสั่งซื้อ นอกจากนี้ WMS ยังช่วยให้การจัดส่งคำสั่งซื้อออนไลน์เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว และเติมสินค้าในคลังสินค้าของคุณได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    ระบบ WMS และ OMS แบบ SaaS บนคลาวด์ ยังช่วยให้คุณสามารถแยกสินค้าคงคลังสำหรับออนไลน์และออฟไลน์ได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการส่งเสริมยอดขายในร้านค้าออฟไลน์ คุณอาจต้องการขายเฉพาะสินค้าบางประเภท (สินค้าที่เป็นที่ต้องการสูง) ผ่านช่องทางนี้เท่านั้น WMS จะทำการลงทะเบียนสินค้าคงคลังสำหรับร้านค้าแบบ brick-and-mortar ของคุณ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าเหล่านั้นถูกจัดส่งไปยังร้านค้าเหล่านั้นโดยไม่มีการผิดพลาด

    b. ช่องทางการสั่งซื้อและการจัดส่งที่ซิงค์กัน

    นอกเหนือจากการมีช่องทางขายออนไลน์และออฟไลน์แบบง่ายๆ คุณยังสามารถผสมผสานฟีเจอร์ต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อมอบบริการที่สะดวกและเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้า เช่น ซื้อออนไลน์รับที่หน้าร้าน (BOPIS), ลองสินค้าที่ร้านซื้อออนไลน์ (ROPO), ซื้อออนไลน์คืนที่ร้าน (BORIS) เป็นต้น

    เมื่อจัดการอย่างถูกวิธี การผสมผสานเหล่านี้สามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างมาก และระบบจัดการคำสั่งซื้อ (OMS) ที่ทรงพลังสามารถช่วยให้คุณทำได้ ด้วยความสามารถอันล้ำสมัย OMS สามารถแจ้งเตือนไปยังร้านค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าที่จำเป็นต้องจัดการคำสั่งซื้อแบบออนไลน์ไปออฟไลน์ หรือออฟไลน์ไปออนไลน์ได้อย่างแม่นยำ

    ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าสั่งซื้อรองเท้าออนไลน์หนึ่งคู่ OMS จะแจ้งเตือนไปยังร้านค้าออฟไลน์ที่อยู่ใกล้กับลูกค้าที่สุด และเตรียมสินค้าไว้ให้พร้อมสำหรับการรับทันที

    c. สต็อกสินค้าแบบศูนย์กลางจัดการทั้งคลังสินค้าและร้านค้าปลีก

    ระบบ WMS บนคลาวด์ช่วยให้คุณรวมศูนย์สต็อกสินค้าจากคลังสินค้าส่วนกลางและร้านค้าต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของสินค้าทั้งหมดได้อย่างสะดวกผ่านแพลตฟอร์มเดียว

    Anchanto’s Vicky Hardiman กล่าวว่า, “ระบบจัดการคลังสินค้าแบบโปร่งใสและเรียลไทม์เป็นสิ่งจำเป็นในการมองเห็นการเคลื่อนไหวของสินค้าที่แตกต่างกัน”

    ด้วยระบบนี้ คุณสามารถเช็คระดับสต็อกสินค้าในร้านค้าปลีก คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้าของคุณได้แบบเรียลไทม์ เมื่อมีสินค้าถูกหยิบจากชั้นวางหรือที่เก็บและถูกนำไปประมวลผล (หรือสแกน) สินค้านั้นจะถูกตัดออกจากระบบสต็อกของคุณโดยอัตโนมัติ และทุกครั้งที่มีสินค้าเข้าใหม่ สินค้าทุกชิ้นจะถูกสแกนและระดับสต็อกของคุณจะได้รับการอัปเดตทันที สินค้าที่ถูกคืนกลับหลังจากผ่านการตรวจสอบคุณภาพก็เช่นกัน ระบบ WMS ยังสามารถติดตามจำนวนสินค้าที่เสียหาย สินค้าที่ถูกจอง สินค้าแถม และอื่นๆ อีกมากมาย

    เมื่อคุณมองเห็นภาพรวมสินค้าทั้งหมดในร้านค้าปลีกและศูนย์กระจายสินค้า คุณสามารถประสานงานการจัดส่งและการรับสินค้าออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งไปยังลูกค้าหรือการให้ลูกค้ามารับที่ร้าน หากร้านค้าใดมีสินค้าขายดีจนสต็อกลดลง คุณสามารถโอนคำสั่งซื้อไปยังร้านค้าใกล้เคียงได้ทันที หรือเสนอให้ลูกค้าซื้อสินค้าออนไลน์แล้วจัดส่งภายหลัง

    ด้วยการมองเห็นภาพรวมสต็อกสินค้า คุณสามารถควบคุมทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้การจัดส่งสินค้ารวดเร็วขึ้น บรรลุข้อตกลงระดับบริการ (SLA) ได้ตามกำหนด ลดความล่าช้าและข้อผิดพลาด และทำให้ลูกค้าพึงพอใจมากขึ้น

    d. การจัดการข้อมูลสินค้า (PIM)

    เพื่อให้คุณสามารถรักษาข้อมูลสินค้าและราคาให้สม่ำเสมอในทุกช่องทางขายปลีกของคุณ คุณจำเป็นต้องมีแหล่งข้อมูลสินค้าที่เป็นศูนย์กลาง ด้วยวิธีนี้ สินค้าทั้งหมดในทุกสาขาของคุณจะได้รับการอัปเดตอย่างเหมาะสม

    ระบบจัดการข้อมูลสินค้า (PIM) ช่วยให้คุณสามารถจัดการรายละเอียดสินค้าและราคาแบบรวมศูนย์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ระบบเหล่านี้ช่วยให้อัปเดตข้อมูลโดยอัตโนมัติ และให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลสินค้าเฉพาะบุคลากรที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น นอกจากนี้ การอัปเดตใหม่ๆ สามารถทำได้ทันทีในหลายช่องทางพร้อมกันเพียงครั้งเดียว

    ด้วยความสม่ำเสมอที่คุณมอบให้ ลูกค้าของคุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการช็อปปิ้งกับคุณทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้พวกเขาใช้ฟีเจอร์ omnichannel พิเศษของคุณ เช่น BOPIS (Buy Online, Pick Up In Store)

    นอกจากนี้ PIM ยังช่วยให้คุณสามารถแบ่งปันและจัดการโปรโมชัน ข้อเสนอ ส่วนลด ตัวเลือกสั่งจองล่วงหน้า หรือแม้แต่แฟลชเซลล์แบบ omnichannel ที่ปรับแต่งได้และซับซ้อนสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ ของคุณ

    เทคโนโลยีข้อมูลเชิงลึกของคู่แข่งอย่าง Digital Shelf ยังสามารถเป็นตัวช่วยสำคัญเมื่อคุณต้องการอัปเดตราคาและข้อมูลผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี SaaS สำหรับอีคอมเมิร์ซนี้มอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคู่แข่ง เช่น รายละเอียดผลิตภัณฑ์ รีวิว และข้อมูลราคาเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณติดตามประสิทธิภาพออนไลน์ของคุณอีกด้วย

    e. ระบบเชื่อมต่อเพื่อการมองเห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์

    การเลือกใช้ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (OMS) และระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) ที่ชาญฉลาดช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการขายต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเชื่อมต่อระบบเหล่านี้กับตลาดออนไลน์ ร้านค้าออนไลน์ และร้านค้าปลีกแบบ brick-and-mortar ได้ ทำให้คุณสามารถรวบรวมข้อมูลแบบเรียลไทม์จากหลายช่องทางและระบบนิเวศที่เชื่อมต่อกัน เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของการขาย สินค้าคงคลัง และประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างสมบูรณ์

    ระบบ OMS และ WMS ยังสามารถเชื่อมต่อกับบริษัทขนส่งและพันธมิตรด้านการจัดส่งที่หลากหลาย เพื่อสื่อสารความต้องการในการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเชื่อมต่อเหล่านี้สามารถติดตามบริษัทขนส่งตลอดการเดินทางของการจัดส่ง และคาดการณ์ความล่าช้า ซึ่งสามารถแจ้งให้ลูกค้าหรือทีมงานของคุณที่จุดรับสินค้าทราบได้

    ด้วยความสามารถในการมองเห็นภาพรวมและควบคุมโดยระบบจัดการคำสั่งซื้อ (OMS) และระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) คุณจะสามารถตรวจสอบผลการขาย ระดับสต็อกสินค้า และการปรับปรุง SLA ได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน คุณยังสามารถออกแบบและสร้างรายงานเพื่อคาดการณ์ยอดขายและความต้องการสต็อกสินค้า ดึงข้อมูลลูกค้าเพื่อมอบประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้ วางแผนกลยุทธ์การขายใหม่ และการตัดสินใจที่สำคัญ

    ข้อดีเพิ่มเติมของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ API ที่ทรงพลังของเทคโนโลยี OMS และ WMS ในยุคปัจจุบันคือความสามารถในการซิงค์กับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ธุรกิจของคุณใช้ ตัวอย่างเช่น SAP, Quickbooks, ระบบ POS และ ERP สามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยี SaaS บนคลาวด์ได้ ด้วยวิธีนี้ คุณไม่จำเป็นต้องเลิกใช้ระบบที่คุณคุ้นเคยและสะดวกในการทำงานด้วย

    4. ตัวอย่างร้านค้าปลีกแบบ omnichannel ที่ใช้เทคโนโลยี OMS และ WMS 

    ระบบจัดการคำสั่งซื้อ (OMS) และระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) เมื่อทำงานร่วมกันสามารถสร้างผลลัพธ์อันน่าทึ่งให้กับธุรกิจค้าปลีกแบบ omnichannel ของคุณได้ เนื่องจากระบบเหล่านี้สามารถติดตามคำสั่งซื้อและสินค้าคงคลังของคุณ และแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำไปยังเครือข่ายต่างๆ ของคุณ ด้วยการเชื่อมต่อกันระหว่างระบบและทีมงานที่ปฏิบัติงาน คุณไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มในทรัพยากรบุคคลหรือเสียเวลากับการงานแบบเดิม ๆ

    ระบบส่วนใหญ่ของคุณจะถูกปรับให้ทำงานอัตโนมัติ โดยสามารถจัดการกับปริมาณคำสั่งซื้อที่มากและคำขอที่ซับซ้อนได้อย่างง่ายดาย เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าระบบเหล่านี้ทำงานอย่างไร เราลองมาดูตัวอย่างของผู้เชี่ยวชาญที่ใช้เทคโนโลยี OMS และ WMS กัน:

    a. Poney Group

    Poney Group เป็นแบรนด์เสื้อผ้าเด็กชั้นนำในตลาดมาเลเซีย มีร้านค้าปลีกในประเทศมากกว่า 40 แห่ง และดำเนินธุรกิจใน 9 ประเทศ แบรนด์นี้มีช่องทางอีคอมเมิร์ซ สหภาพธุรกิจระหว่างประเทศ และร้านค้าปลีกแบบออฟไลน์ ด้วยขนาดของธุรกิจ Poney Group จึงมีตลาดที่ใหญ่ แต่ประสบปัญหาในการจัดการและจัดส่งคำสั่งซื้ออย่างมีประสิทธิภาพ

    “ตอนที่ยอดสั่งซื้อของเราพุ่งสูงในปี 2020 เราไม่สามารถจัดการไหวด้วยกระบวนการแบบแมนนวลอีกต่อไป นั่นคือตอนที่เราตระหนักว่าเราต้องการโซลูชันเพื่อจัดส่งคำสั่งซื้อภายในเวลาปฏิบัติงานที่จำกัดและกำลังคนที่มีอยู่” กล่าวโดย Rudy Dong Chao, Head of E-commerce and International Business Union at Poney Group

    ในระหว่างการค้นหาโซลูชันเพื่อจัดการปริมาณคำสั่งซื้อที่สูง Poney Group ได้พบกับ Anchanto เทคโนโลยี SaaS จาก Anchanto ต้องการความมุ่งมั่นเพียงเล็กน้อยและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Poney Group เทคโนโลยีของ Anchanto ยังมีการเชื่อมต่อกับตลาด ผู้ให้บริการขนส่ง และผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ต่างๆ ซึ่งช่วยให้ Poney Group:

    • จัดการสินค้าคงคลัง: มองเห็นสต็อกสินค้าแบบเรียลไทม์ ปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง ป้องกันสินค้าหมดสต็อก
    • ควบคุมช่องทางการขาย: เชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ ตลาดออนไลน์ และร้านค้าปลีกเข้าด้วยกัน จัดการคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ
    • ลดอัตราความผิดพลาด: ระบบอัตโนมัติช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดส่งสินค้าและการบริการลูกค้า
    • ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น: รองรับการจัดส่งแบบพิเศษ เช่น จัดส่งด่วน สินค้าพรีออเดอร์ หรือการคืนสินค้า
    • นำเสนอผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างๆ: ขยายช่องทางการขายไปยังตลาดออนไลน์และประเทศใหม่ๆ เพิ่มโอกาสในการขาย

    “ก่อนใช้ Anchanto เราเจอปัญหาคำสั่งซื้อผิดพลาดและหยิบสินค้าผิดเยอะมาก ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น การหาสินค้าที่ลูกค้าสั่งจากคลังสินค้ากว่า 1,000 แห่งก็เป็นเรื่องท้าทายในทุกๆ วัน ซึ่งนำไปสู่การล่าช้า การยกเลิกคำสั่งซื้อ และค่าใช้จ่ายในการจัดส่งคืน” กล่าวโดย N. Gopala Krishnan, Warehouse and Distribution Manager at Poney Group.

    poney_group_omnichannel_retail

    b. Luxasia

    Luxasia เป็นผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์ความงามแบบ Omnichannel ในภูมิภาค APAC โดยมีร้านค้าปลีกกว่า 2,000 แห่งใน 11 ประเทศ ร้านค้าแห่งนี้รวบรวมแบรนด์ความงามชั้นนำจากทั่วโลก ทั้งแบรนด์เฉพาะกลุ่ม แบรนด์หรูหรา และแบรนด์ระดับพรีเมียม แบรนด์บางส่วนที่วางอยู่บนชั้นวางอันหรูหราของพวกเขา ได้แก่ Guerlain, Hermès, Loewe, Paco Rabanne และ Calvin Klein

    ในฐานะตัวแทนของแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและความหรูหรา Luxasia ต้องแบกรับความรับผิดชอบอย่างหนัก

    แต่เนื่องจากเครือข่าย Omnichannel ของพวกเขาครอบคลุม 11 ประเทศ และตอบสนองความต้องการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ Luxasia จึงเริ่มประสบกับความท้าทายดังต่อไปนี้:

    • การมองเห็นการดำเนินงานที่จำกัด: ไม่สามารถติดตามและวิเคราะห์ผลการขาย สินค้าคงคลัง และการจัดส่งได้อย่างละเอียด
    • ข้อผิดพลาดในการดำเนินงานเนื่องจากช่องทางการขายของผู้ค้าปลีกไม่สอดคล้องกัน: ช่องทางการขายออนไลน์และออฟไลน์ไม่เชื่อมต่อกัน ทำให้เกิดปัญหาสต็อกไม่ตรงกัน คำสั่งซื้อผิดพลาด และการจัดส่งล่าช้า
    • การเติบโตที่จำกัดเนื่องจากประสบการณ์ที่จำกัดกับระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซ: ขาดความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจบนแพลตฟอร์มออนไลน์และตลาดต่างๆ
    • ระบบ SAP ที่ใช้งานอยู่: ระบบ SAP เดิมมีข้อจำกัดและไม่สามารถปรับแต่งให้รองรับการขายแบบ omnichannel

    หลังจากได้รู้จักกับ Anchanto Order Management ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์จัดการอีคอมเมิร์ซแบบหลายช่องทางชั้นนำ Luxasia ได้เติบโตขึ้นถึง 7 เท่า และประสบความสำเร็จในการดำเนินงานอย่างราบรื่นภายในเวลาเพียง 1 ปี นอกจากนี้ ผู้ค้าปลีกยังสามารถ:

    • ขยายตลาดสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ: เข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ
    • เปลี่ยนวิธีการดำเนินงานด้วยทรัพยากรที่มีอยู่: ปรับปรุงระบบเดิมให้สามารถรองรับการขายแบบ omnichannel โดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบหลักใหม่ทั้งหมด
    • ควบคุมและมองเห็นภาพรวมข้ามภูมิภาค: ติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการขาย สินค้าคงคลัง และการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์จากทุกสาขาในทุกประเทศ
    • จัดการอีคอมเมิร์ซได้อย่างไม่มีข้อผิดพลาด: ระบบอัตโนมัติช่วยลดข้อผิดพลาดในการจัดการคำสั่งซื้อ สินค้าคงคลัง และการจัดส่ง

    luxasia_omnichannel_saas_technology

    c. Valiram

    Valiram เป็นผู้นำด้านสินค้าหรูหราและค้าปลีกที่มีช่องทางการขายแบบ omnichannel พวกเขามีแบรนด์ระดับโลกมากกว่า 200 แบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ เลือกเทคโนโลยี OMS และ WMS ของ Anchanto เพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์และกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซอันชาญฉลาดของพวกเขา เพิ่มยอดขายข้ามประเทศและประเภทสินค้า และขยายแบรนด์ใหม่ๆ โดยยังคงรักษาคุณภาพและค่านิยมที่ยอดเยี่ยมไว้

    “เพื่อให้แบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น และมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นบนช่องทางขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เราต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง,” กล่าวโดย Mukesh Valiram, Executive Director of Valiram.

    ภารกิจของพวกเขาคือการสร้างระบบปฏิบัติการเบื้องหลังที่สามารถรองรับการเติบโตได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการพันธมิตรด้านเทคโนโลยีเพื่อรวมและทำให้กระบวนการดิจิทัลของพวกเขาเป็นมาตรฐานเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Michael Kors, Tumi, Tory Burch, Victoria’s Secret, Bath & Body Works และ Giuseppe Zanotti

    ด้วยเทคโนโลยี SaaS ของ Anchanto พวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการดำเนินงานอย่างมาก ในขณะที่ขยายธุรกิจไปยังช่องทางต่าง ๆ

    valiram_omnichannel_retail_management

    5. บทสรุป

    การค้าปลีกแบบ Omnichannel กำลังพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์การช็อปปิงที่ดีขึ้นให้กับผู้บริโภคในปัจจุบัน ผู้บริโภคต้องการผสมผสานช่องทางการค้าปลีกแบบออนไลน์และออฟไลน์เพื่อความสะดวกสบาย และการผสมผสานทั้งสองอย่างนี้สามารถช่วยให้ธุรกิจของคุณลดต้นทุนการจัดส่งและการคืนสินค้าได้จริง

    แม้จะมีข้อดี แต่คุณก็ตระหนักดีว่าการค้าปลีกแบบ omnichannel นั้นซับซ้อนและท้าทาย ด้วยการปฏิบัติงานหลาย ๆ อย่างที่ไม่สอดคล้องกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อว่า omnichannel กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีที่สนับสนุนอย่างระบบ OMS และ WMS มาใช้ เทคโนโลยีเหล่านี้ผสมผสานช่องทางการค้าปลีกแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างราบรื่นเพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้นให้กับผู้บริโภค

    ระบบ SaaS เหล่านี้ทำให้คุณสามารถควบคุมธุรกิจของคุณได้อย่างสมบูรณ์ มองเห็นข้อมูลเชิงลึก มองเห็นภาพที่ชัดเจนของยอดขาย การดำเนินงาน พนักงาน และสินค้าคงคลังของคุณ และอื่นๆ อีกมากมาย

    ปลดล็อคศักยภาพ omnichannel ของคุณด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึกจาก Anchanto, reach out to the experts at Anchanto.

    แหล่งอ้างอิง –  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7

    Short on time? Download now and read on the go.

    Download PDF